ฟาร์มกังหันลมที่วางแผนไว้ว่าจะต้องปิดตัวลงเป็นเวลาห้าเดือนต่อปีเพื่อปกป้องนกแก้ว

แผนสำหรับฟาร์มกังหันลมแห่งใหม่ที่สำคัญในออสเตรเลียได้รับการยกนิ้วให้ในเดือนนี้ โดยกำหนดให้กังหันทำงานแบบออฟไลน์เป็นเวลาห้าเดือนต่อปีเพื่อปกป้องสายพันธุ์นกแก้ว

ในรายงานการประเมินด้านสิ่งแวดล้อมของ Robbins Island Renewable Energy Park หน่วยงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของรัฐแทสเมเนียกล่าวว่าคณะกรรมการได้ "ตัดสินใจที่จะอนุมัติข้อเสนอ" สำหรับโครงการ ซึ่งอาจมีกังหันลมมากถึง 122 ตัวและดูแลโดย ACEN Australia

หนึ่งในเงื่อนไขการอนุมัติเกี่ยวข้องกับนกแก้วท้องสีส้ม ซึ่งรัฐบาลออสเตรเลียระบุว่าอยู่ในภาวะใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง

“เว้นแต่จะได้รับการอนุมัติเป็นลายลักษณ์อักษรจากคณะกรรมการ EPA WTG [เครื่องกำเนิดกังหันลม] ทั้งหมดจะต้องปิดตัวลงในช่วงการโยกย้าย OBP ทางตอนเหนือ (รวม 1 มีนาคมถึง 31 พฤษภาคม) และช่วงการโยกย้าย OBP ทางตอนใต้ (15 กันยายนถึง 15 พฤศจิกายน) ” เอกสาร EPA กล่าว

ในแถลงการณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แอนดรูว์ พอล ประธานคณะกรรมการ EPA กล่าวว่าองค์กรได้สรุปว่าจำเป็นต้องมี "มาตรการบรรเทาผลกระทบที่สำคัญ" ที่เกี่ยวข้องกับ "ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับประชากรนกแก้วท้องสีส้ม"

นี่เป็นเพราะ "ความรู้ที่จำกัดเกี่ยวกับความสำคัญของเกาะร็อบบินส์ในการอพยพทางเหนือและทางใต้ประจำปี" รวมถึงความจำเป็นในการพิจารณาแผนฟื้นฟูแห่งชาติสำหรับสัตว์ชนิดนี้

“สิ่งนี้นำไปสู่การรวมเงื่อนไข [การอนุมัติโครงการ] FF6 ซึ่งกำหนดช่วงเวลาปิดเครื่องระหว่างการโยกย้ายรวมเป็นเวลาห้าเดือนเมื่อกังหันไม่สามารถทำงานได้” พอลกล่าวเสริม

เกาะร็อบบินส์ตั้งอยู่ในน่านน้ำนอกชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐแทสเมเนีย ซึ่งเป็นเกาะขนาดใหญ่และรัฐของออสเตรเลีย หากทุกอย่างเป็นไปตามแผน กำลังการผลิตทั้งหมดของฟาร์มกังหันลมที่เสนออาจสูงถึง 900 เมกะวัตต์