หลังจากความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) มีผลบังคับใช้ มีส่วนสำคัญต่อกระบวนการผลิตสินค้า และบริการของประเทศภาคีสมาชิก จากการได้รับสิทธิพิเศษทางภาษี รวมถึงการลดกระบวนการต่าง ๆ ที่ยุ่งยากซับซ้อน
สำหรับประเทศไทยพบว่า สินค้าที่จะได้รับประโยชน์จาก RCEP เพิ่มเติมจากข้อตกลง FTA เดิมได้แก่
- ตลาดจีน ได้แก่ สับปะรดแปรรูป ลำไยกระป๋อง น้ำสับปะรด น้ำมะพร้าว ยาสูบ เม็ดพลาสติก ยางสังเคราะห์ ชิ้นส่วนยานยนต์
- ตลาดเกาหลีใต้ ยางสังเคราะห์ อาหารทะเลสดและแปรรูป เนื้อไก่ เนื้อสุกร ไม้แปรรูป ข้าวโพดหวาน รถจักรยานและชิ้นส่วน รถจักรยานยนต์ และชิ้นส่วน
นอกจากนี้จากการลดภาษีสินค้าระหว่างจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และนิวซีแลนด์ ทำให้เป็นโอกาสการส่งออกของสินค้าไทยผ่านห่วงโซ่การผลิตเพิ่มเติม ได้แก่ ยานยนต์ชิ้นส่วน เคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ยาง ผลิตภัณฑ์พลาสติก ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เม็ดพลาสติก
และในอนาคต ประเทศไทยจะเป็นปลายทางการลงทุนที่น่าสนใจ จากปัจจุบันที่ไทยเป็นฐานการผลิตสำคัญในกลุ่มยางล้อ การแปรรูปผลิตภัณฑ์ยาง การแปรรูปอาหาร และสินค้าเกษตร
สินค้า Made in RCEP ทำให้การส่งออกสินค้าในประเทศสมาชิกได้ง่ายและสะดวก ซึ่งการเปิดตลาดสินค้าใน RCEP จะมีกรอบระยะเวลาแตกต่างกัน แบ่งเป็น
1) สินค้ากลุ่มสัดส่วน 80% ของสินค้าที่ตกลงกัน แบ่งเป็น กลุ่มแรกสินค้าสัดส่วน 65% จะลดภาษีนำเข้าเป็น 0% ในปีแรก และอีก 15% จะทยอยลดภาษีเป็น 0% ใน 10-15 ปี
2) กลุ่มสินค้าอ่อนไหวและอ่อนไหวสูง อีก 20% จะไม่มีการลดภาษี ขึ้นอยู่กับการเจรจาต่อรอง
ที่มา: กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์
เบอร์โทรศัพท์:+66 2-528-7500-29