หลายคนอาจสงสัยว่า ใบกำกับภาษีมีกี่ประเภท และมีรูปแบบแตกต่างกันอย่างไรบ้าง กรมสรรพากร ได้ระบุข้อมูลและรายละเอียด ประเภทของใบกำกับภาษี ดังนี้
1. ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป
- ผู้ประกอบการจดทะเบียนโดยทั่วไป มีหน้าที่ต้องออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป ให้แก่ผู้ซื้อสินค้า หรือผู้รับบริการ ซึ่งใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปจะต้องมีรายการอย่างน้อย ดังต่อไปนี้
- คำว่า "ใบกำกับภาษี" ในที่ที่เห็นได้เด่นชัด
- เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ขายสินค้า หรือให้บริการ
- ชื่อ ที่อยู่ ของผู้ขายสินค้า หรือให้บริการ
- ชื่อ ที่อยู่ ของผู้ซื้อสินค้า หรือรับบริการ
- หมายเลขลำดับของใบกำกับภาษี และหมายเลขลำดับของเล่ม (ถ้ามี)
- วัน เดือน ปี ที่ออกใบกำกับภาษี
- ชื่อ ชนิด ประเภท ปริมาณและมูลค่าของสินค้า หรือของบริการ
- จำนวนภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่คำนวณจากมูลค่าของสินค้า หรือของบริการ โดยให้แยกออกจาก มูลค่าของสินค้า หรือของบริการให้ชัดแจ้ง
- การยกเลิกใบกำกับภาษีฉบับเดิม เพื่อออกฉบับใหม่ ให้ดำเนินการ ดังนี้
- เรียกคืนใบกำกับภาษีฉบับเดิมและนำมาประทับตราว่า "ยกเลิก" หรือขีดฆ่าแล้วเก็บรวบรวมไว้กับสำเนาใบกำกับภาษีฉบับเดิม
- จัดทำใบกำกับภาษีฉบับใหม่ ซึ่งเป็นเลขที่ใหม่ แต่จะต้องลงวัน เดือน ปี ให้ตรงกับ วัน เดือน ปี ตามใบกำกับภาษีฉบับเดิม
- หมายเหตุไว้ในใบกำกับภาษีฉบับใหม่ว่า "เป็นการยกเลิกและออกใบกำกับภาษีฉบับใหม่ แทนฉบับเดิมเลขที่… เล่มที่…." และหมายเหตุการยกเลิกใบกำกับภาษีไว้ในรายงานภาษีขายของเดือน ภาษีที่จัดทำกำ กับภาษีฉบับใหม่
- ผู้ประกอบการที่ขอให้ยกเลิกใบกำกับภาษีฉบับเดิม และออกฉบับใหม่ ต้องถ่ายเอกสาร ใบกำกับภาษีฉบับเดิม (ฉบับที่ขอยกเลิก) ติดเรื่องไว้ และส่งมอบใบกำกับภาษีฉบับที่ขอยกเลิกคืนให้ผู้ออกใบกำกับภาษี นำไปรวมกับสำเนาไว้เป็นหลักฐาน
- ให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ออกใบกำกับภาษีฉบับใหม่ หมายเหตุการยกเลิกใบกำกับภาษี ไว้ในรายงานภาษีขายประจำเดือนที่ออกใบกำกับภาษีฉบับใหม่แทนด้วย
- การออกใบแทนใบกำกับภาษี ใบเพิ่มหนี้ ใบลดหนี้ ดำเนินการ ดังนี้
- ถ่ายสำเนาใบกำกับภาษี สำเนาใบเพิ่มหนี้ หรือสำเนาใบลดหนี้ และให้บันทึกลงในภาพถ่าย หรือด้านหลังของภาพถ่าย ว่า ใบแทนออกให้ครั้งที่... มี วัน เดือน ปีที่ออกใบแทน และคำอธิบายโดยย่อถึงสาเหตุที่ออกใบแทนพร้อมลงลายมือชื่อของผู้ออกใบแทน
- ผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ออกใบแทนใบกำกับภาษี ใบแทนใบเพิ่มหนี้ ใบแทนใบลดหนี้ บันทึกรายการการออกใบแทน ในรายงานภาษีขายในเดือนที่มีการออกใบแทน โดยระบุชื่อผู้ซื้อ เลขที่ / เล่มที่ วันที่ของใบกำกับภาษี ใบเพิ่มหนี้ หรือใบลดหนี้ ที่ได้มีการออกใบแทน
2. ใบกำกับภาษีอย่างย่อ
3. เอกสารอื่นที่ถือเป็นใบกำกับภาษี
- ใบเพิ่มหนี้
- ใบลดหนี้
- ใบเสร็จรับเงิน ที่ส่วนราชการออกให้ในการขายทอดตลาด
- ใบเสร็จรับเงินของกรมสรรพากร กรมศุลกากร หรือกรมสรรพสามิต เฉพาะส่วนที่เป็นภาษีมูลค่าเพิ่ม
สำหรับการออกใบกำกับภาษีด้วยกระดาษ คือ เอกสารหลักฐานสำคัญ ซึ่งผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม จะต้องจัดทำและออกให้กับผู้ซื้อสินค้า หรือผู้รับบริการ ทุกครั้งที่มีการขายสินค้า หรือให้บริการ เพื่อแสดงมูลค่าของสินค้าหรือบริการ และจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนเรียกเก็บ หรือพึงเรียกเก็บจากผู้ซื้อสินค้า หรือรับบริการในแต่ละครั้ง
- กรณีการขายสินค้า ผู้ประกอบการจดทะเบียนมีหน้าที่ต้องออกใบกำกับภาษี พร้อมทั้งส่งมอบให้แก่ผู้ซื้อในทันทีที่มีการส่งมอบสินค้าให้กับผู้ซื้อ
- กรณีการให้บริการ ผู้ประกอบการจดทะเบียน มีหน้าที่ต้องออกใบกำกับภาษี พร้อมทั้งส่งมอบให้แก่ผู้รับบริการในทันที ที่ได้รับชำระราคาค่าบริการ ผู้ประกอบการจดทะเบียนต้องจัดทำใบกำกับภาษีอย่างน้อย 2 ฉบับ ดังนี้
- ต้นฉบับ ส่งมอบให้กับผู้ซื้อสินค้า หรือผู้รับบริการ
- สำเนา เก็บรักษาไว้เพื่อเป็นหลักฐานประกอบการลงรายงานภาษี เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี นับแต่วันที่ทำรายงาน
สำหรับผู้ประกอบการจดทะเบียน ที่เป็นผู้ซื้อสินค้า หรือรับบริการ ต้องเรียกใบกำกับภาษีจากผู้ประกอบการจดทะเบียนอื่น ซึ่งเป็นผู้ขายสินค้า หรือให้บริการ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม และหากผลการคำนวณภาษีปรากฏว่า ภาษีซื้อมากกว่าภาษีขาย ถือเป็นเครดิตภาษีที่ผู้ประกอบการจดทะเบียน มีสิทธินำไปชำระภาษีมูลค่าเพิ่มในเดือนภาษีถัดจากเดือนภาษีที่คำนวณภาษีนั้น และหากในเดือนภาษีที่นำเครดิตภาษีไปชำระ ยังมีเครดิตภาษีคงเหลืออยู่อีก มีสิทธินำไปชำระภาษีมูลค่าเพิ่มในเดือนภาษีถัดไปได้
ในกรณีผู้ประกอบการจดทะเบียน ไม่ใช้สิทธินำเครดิตภาษีที่เหลืออยู่ไปชำระภาษีมูลค่าเพิ่ม ในเดือนถัดไป มีสิทธิขอคืนภายใน 3 ปี นับแต่วันพ้นกำหนดเวลายื่นแบบแสดงรายการภาษี สำหรับเดือนภาษีนั้น
ข้อมูล ณ วันที่ 4 สิงหาคม 2565
แหล่งที่มา : กรมสรรพากร 90 ซอยพหลโยธิน 7 แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400
เบอร์ติดต่อ : 0 2272 8000
ข้อมูลเพิ่มเติม