ไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุม BIMSTEC ครั้งที่ 6 ส่งเสริมความร่วมมือในภูมิภาค

วันที่ 4 เมษายน 2568 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทย
เป็นประธานการประชุมผู้นำบิมสเทค ครั้งที่ 6 ทั้งนี้ประเทศไทยเคยเป็นเจ้าภาพจัดการประขุมผู้นำบิมสเทค ครั้งที่ 1 เมื่อปี พ.ศ. 2547 แสดงความรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้พาบิมสเทคกลับมายังกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย และมีโอกาสต่อยอดบนรากฐานที่ได้วางไว้ตลอดช่วง 20 ปี

โดยแนวคิดหลักภายใต้การดำรงตำแหน่งประธานบิมสเทคของไทย คือ “มั่งคั่ง ยั่งยืน ฟื้นคืน และเปิดกว้าง” ท่ามกลางสถานการณ์ระหว่างประเทศและความท้ายในภูมิภาค บิมสเทคจะเป็นกลไกสำคัญในการเสริมสร้างความร่วมมือและการดำเนินการร่วมกัน โดยเฉพาะในด้านการเตรียมความพร้อม การบรรเทาผลกระทบ และการฟื้นฟูประเทศที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติผ่านกรอบความร่วมมือที่มีอยู่ รวมทั้งการจัดตั้งกลไกที่เข้มแข็งยิ่งขึ้นบนพื้นฐานจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เพิ่งเกิดขึ้น

ทั้งนี้ การประชุมผู้นำรัฐสมาชิกบิมสเทคได้มีการรับรองเอกสารผลลัพธ์สำคัญ 6 ฉบับ ได้แก่

1.       วิสัยทัศน์กรุงเทพฯ ๒๐๓๐ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญของการประชุมสุดยอดผู้นำครั้งนี้ ทั้งยังเป็น วิสัยทัศน์ฉบับแรกที่กำหนดยุทธศาสตร์เพื่อสร้าง "บิมสเทคที่มั่งคั่ง ยั่งยืน ฟื้นคืน และเปิดกว้าง" (PRO BIMSTEC) ภายในปี ค.ศ. ๒๐๓๐ โดยให้ความสาคัญกับการบูรณาการทางเศรษฐกิจ การเชื่อมโยง และความมั่นคงของมนุษย์

2.   ปฏิญญาการประชุมผู้นาบิมสเทค ครั้งที่ ๖ ซึ่งเป็นการยืนยันถึงเจตนารมณ์ของเหล่าประเทศสมาชิก ในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกและผลักดันวิสัยทัศน์กรุงเทพฯ ๒๐๓๐

3.       กฎระเบียบสาหรับกลไกการดาเนินงานของบิมสเทค ซึ่งเป็นกรอบการดาเนินงานอย่างเป็นระบบและมีกฎเกณฑ์เป็นพื้นฐาน เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพและความเป็นระเบียบแบบแผน
ในการดำเนินงานของบิมสเทคให้เกิดผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น

4.       รายงานของคณะผู้ทรงคุณวุฒิว่าด้วยทิศทางของบิมสเทคในอนาคต ซึ่งนำเสนอข้อเสนอแนะสาคัญที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์กรุงเทพฯ ๒๐๓๐

5.       การลงนามความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านการขนส่งทางทะเล ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการเสริมสร้างการเชื่อมโยงทางทะเลระหว่างเอเชียใต้กับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์ ลดต้นทุนการค้า และอานวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายสินค้าและประชาชน

6.       แถลงการณ์ร่วมของผู้นาบิมสเทคว่าด้วยผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในเมียนมาและไทย ซึ่งเป็นการแสดงความเสียใจ ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และความมุ่งมั่นของบิมสเทคในการสนับสนุนประเทศที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงเป็นการยืนยันความร่วมมือที่แน่นแฟ้นด้านการจัดการภัยพิบัติ และเสริมสร้างกลไกตอบสนองต่อภัยธรรมชาติให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น

ผลลัพธ์ของการประชุมผู้นำครั้งนี้จะนำไปสู่ประโยชน์โดยตรงที่เป็นรูปธรรมและจับต้องได้สำหรับประชาชนชาวไทย ความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านการขนส่งทางทะเลจะช่วยลดต้นทุนค่าขนส่งสินค้าและเพิ่มประสิทธิภาพของห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งจะสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันของสินค้าไทยและขยายโอกาสใหม่ด้านการตลาดและ การลงทุน การแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนที่เพิ่มขึ้นจากการท่องเที่ยวและความร่วมมือทางวัฒนธรรม รวมทั้งกระตุ้นการท่องเที่ยวและสร้างโอกาสการจ้างงานใหม่ ๆ ซึ่งท้ายที่สุดแล้วสิ่งเหล่านี้จะนาไปสู่โอกาสทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชนไทย

นอกจากการประชุมผู้นำบิมสเทค ครั้งที่ 6 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ยังมีการหารือทวิภาคีระหว่างนายกรัฐมนตรีไทยกับผู้นำสมาชิกบิมสเทค 2 ประเทศ ได้แก่

1. การเยือนไทยอย่างเป็นทางการของ ฯพณฯ นายเค พี ศรรมะ โอลี นายกรัฐมนตรีเนปาล เมื่อวันที่ ๒ เมษายน ๒๕๖๘ ซึ่งเป็นการเยือนอย่างเป็นทางการครั้งแรก โดยหารือเกี่ยวกับความร่วมมือหลากหลายมิติ ทั้งด้านการค้าและความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การส่งเสริมให้การทำธุรกิจง่ายยิ่งขึ้น การเกษตร การท่องเที่ยวและวัฒนธรรม รวมทั้งการให้การพัฒนาทรัพยากรบุคคล ซึ่งไทยได้ให้ ความช่วยเหลือแก่เนปาลมากกว่า ๕๐ ปี และในระหว่างการเยือนนี้ ได้มีการลงนามความตกลงและบันทึก ความเข้าใจในความร่วมมือด้านต่าง ๆ ๘ ฉบับด้วยกัน

2. การเยือนไทยอย่างเป็นทางการของ ฯพณฯ นายนเรนทร โมที นายกรัฐมนตรีอินเดีย เมื่อวันที่ ๓ - ๔ เมษายน ๒๕๖ โดยได้ประกาศการยกระดับความสัมพันธ์ไทย – อินเดีย สู่ความเป็น "หุ้นส่วนยุทธศาสตร์" ทั้งสองฝ่ายตกลงจะส่งเสริมความร่วมมือด้านต่าง ๆ รวมถึงด้านการเมือง และการป้องกันประเทศ การค้าและการลงทุน ความเชื่อมโยงทางกายภาพ ความเชื่อมโยงทางดิจิทัล และความเชื่อมโยงระหว่างประชาชนกับประชาชน วัฒนธรรมและการท่องเที่ยว รวมถึงการพัฒนาเส้นทาง การท่องเที่ยวเชิงพุทธศาสนา ตลอดจนการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นภูมิภาคและประเด็นระดับโลกต่าง ๆ พวกเรายังได้ยินดีต่อการลงนามความตกลงและบันทึกความเข้าใจระหว่างไทยและอินเดียที่สำคัญหลายฉบับ 

ความคิดเห็น

สงวนลิขสิทธิ์ 2022 โดย กรมประชาสัมพันธ์
สถิติการเข้าชม : 90,004,159