“ระเบียงผลไม้ภาคตะวันออก” หรือ Eastern Fruit Corridor : EFC คือ โครงการที่ตั้งเป้าจะทำให้ภาคตะวันออกเป็น “มหานครผลไม้ของโลก” เนื่องจากศักยภาพของภาคตะวันออก สามารถเชื่อมต่อ “ภาคเกษตรกรรม” เข้ากับ “ภาคอุตสาหกรรม” ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ EEC ได้ อีกทั้งภาคตะวันออก ถือเป็นแหล่งผลิตผลไม้ที่สำคัญหลายชนิดของไทยอยู่แล้ว
โดยโครงการดังกล่าวจะตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 40 ไร่ ในนิคมอุตสาหกรรม Smart Park จังหวัดระยอง มีเป้าหมายคือ สร้างมาตรฐานระบบการซื้อขายให้เป็นสากล เชื่อมโยงกับผู้ค้าในตลาดโลก มีระบบประมูลสินค้า ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรมีอำนาจต่อรอง และได้ราคาที่เพิ่มสูงมากขึ้น สร้างสินค้าให้มีคุณภาพตามความต้องการตลาด
นอกจากนี้การจัดทำระบบห้องเย็นขนาดใหญ่ (Blast freezer & Cold storage) เพื่อเก็บรวบรวมผลไม้ในภาคตะวันออก และพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศที่ออกมาพร้อม ๆ กันไว้ขายในช่วงฤดูขาดแคลน ในสภาพที่สดใหม่ เป็นหนึ่งในความสำคัญของโครงการโดย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้นำร่องความร่วมมือกับภาครัฐ ลงทุนจัดทำห้องเย็นเก็บผลไม้ทันสมัยขนาด 4,000 ตัน ด้วยการนำพลังงานความเย็นจากก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) มาใช้เป็นเทคโนโลยี Blast freezer รักษาคุณภาพผลไม้ให้เสมือนเพิ่งเก็บจากสวน และระบบ Cold storage ที่จะรักษาคุณภาพผลไม้นั้นให้ขายได้ตลอดปี
ส่วนการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) จัดหาพื้นที่โดยกำหนดบริเวณส่วนหนึ่งของนิคมอุตสาหกรรม Smart Park มาบตาพุด จังหวัดระยอง ระยะเริ่มต้น 40 ไร่ ซึ่งได้ประกาศเป็นพื้นที่เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษที่จะได้สิทธิประโยชน์ตามมาตรการ EEC และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ประสานความร่วมมือส่งเสริมด้านสิทธิประโยชน์ให้หน่วยงานรัฐ และเอกชน เพื่อร่วมกันพัฒนาระบบห้องเย็น และอุตสาหกรรมเกี่ยวข้องกับผลไม้ ภายในโครงการยังมีอาคารคลังสินค้า อาคารโลจิสติกส์ และบรรจุภัณฑ์ อาคารสำนักงานด้านสหกรณ์เข้ามาบริหารจัดการในส่วนของผลไม้ที่จะส่งเข้ามาจำนวนหลายแสนตัน
รัฐบาลยังมีแผนต่อยอด EFC สู่โครงการลงทุนตลาดกลางผลไม้และดิจิตอลแพลตฟอร์ม ครอบคลุมการบริหารจัดการกระบวนการผลิต การทำแพลตฟอร์ม e-commerce และ e-auction การรับรองมาตรฐานเพื่อรองรับการซื้อขายกับต่างประเทศ พร้อมทั้งระบบการขนส่งสินค้า โดยกำหนดพื้นที่ตั้งโรงงานซึ่งมีขนาดห้องเย็นจุผลไม้ได้ถึง 10,000 ตันอยู่บริเวณใกล้แหล่งปลูกทุเรียน เพื่อเป็นกลไกในการรักษาสมดุลด้านราคา วางเป้าหมายเปิดดำเนินการในเดือนธันวาคม 2565
ที่มา: การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.)
เบอร์โทรศัพท์: +66 2 2530561