อาหารไทยนับเป็นอีกหนึ่ง Soft power ที่สร้างชื่อให้กับประเทศไทยผ่านวัฒนธรรมของอาหารการกินซึ่งเมนูที่เป็น Soft power ก็มีทั้งอาหารคาว และอาหารหวาน อาทิ ต้มยำกุ้ง ต้มข่าไก่ ผัดไทยกุ้งสด แกงมัสมั่นไก่ ข้าวซอย ส้มตำมะละกอ ทับทิมกรอบ และข้าวเหนียวมะม่วง
เพราะทุกเมนูล้วนมีรสชาติถูกปากโดนใจผู้ได้ลิ้มชิมรสจัดเต็มครบทุกรสไม่ว่าจะเปรี้ยว หวาน มัน เค็ม และรสชาติที่เผ็ด และทีเด็ดไม่แพ้ใคร คงเป็นเครื่องชูรสปรุงแต่งที่ได้มาจากพืชผักสวนครัวสมุนไพรที่เป็นภูมิปัญญาของบรรพบุรุษนำมาปรุงแต่งจนทำให้เกิดกลิ่น รูป รส และลักษณะเฉพาะสไตล์ไทยจนเป็นที่โด่งดังไปทั่วโลก
ทำให้ชาวต่างชาติที่ตกหลุมรักอาหาร และขนมไทย เมื่อมีโอกาสมาท่องเที่ยว หรือตั้งใจเดินทางมาประเทศไทย เพื่อเรียนคอร์สทำอาหาร และขนมไทยอยู่เป็นระยะ ๆ จำนวนมากจนทำให้ทุกวันนี้มีโรงเรียนที่เปิดสอนทำอาหาร และขนมแทรกตัวอยู่ทุกมุมในแผนที่ประเทศไทย
เราจึงรวบรวม 5 โรงเรียนสอนทำอาหารและขนมไทยที่ได้รับความ นิยมติดอันดับต้น ๆ ของประเทศไทยมาไว้ในคู่มือ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อชาวต่างชาติที่กำลังตัดสินใจจะเรียนทำอาหารและขนม เพื่อให้ได้ ฝีมือ “รสไทย” กลับประเทศไปแบบไม่ต้องผิดหวัง
สถานที่แนะนำประกอบด้วยดังนี้
1. MLP : M.L. Puang The Royal Exquisite Thai Cooking School โรงเรียนศิลปศาสตร์อาหารไทยหม่อมหลวงพวง ทินกร เป็นโรงเรียนภายใต้การควบคุมดูแลตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ มุ่งเน้น การเรียนการสอนในทุกหลักสูตรที่เป็นต้นตำรับจากชาววัง ทั้งอาหาร และขนมไทย ที่มีงาน
แกะสลักผักผลไม้ งานศิลปะประดิษฐ์ดอกไม้ และใบตอง ไว้ให้ผู้สนใจได้เรียนรู้เพิ่มนอกจากอาหารด้วย
ขั้นตอนการเรียน : สอนตั้งแต่การเริ่มเตรียมวัตถุดิบ การปรุงอาหาร และขนม การจัดจาน ไปจนถึงการคิดคำนวณต้นทุน เพื่อสามารถนำไป ประกอบอาชีพเชฟ หรือเป็นพ่อครัว แม่ครัว รวมทั้งเปิดร้านอาหาร เป็นของตนเองได้ทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ
ใบประกาศนียบัตร : ทุกหลักสูตรมีวุฒิบัตรภาษาไทย และภาษาอังกฤษ มอบให้อย่างละ 1 ฉบับ หากลงเรียนหลักสูตรพิเศษมีเอกสารรับรองชั่วโมง สำหรับยื่นวีซ่าเพื่อใช้ในการสมัครงาน
สถานที่ติดต่อ : www.mlpuang.com
เบอร์โทรศัพท์ : 0 2002 2814 หรือ 08 6900 9396
2. Bangkok Cooking School โรงเรียนสอนทำอาหารกรุงเทพบริการ ที่ได้รับอนุญาตให้เป็นสถานที่ทดสอบฝีมือ และทดสอบมาตรฐานฝีมือ แรงงานแห่งชาติ สาขาผู้ประกอบอาหารไทย ระดับ 1 และระดับ 2 แก่ ผู้ต้องการเดินทางไปทำงานด้านร้านอาหารในต่างประเทศได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
โดยมีหลักสูตรคอร์สเรียนทำอาหารที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งอาหารไทย และอาหารต่างชาติ
ขั้นตอนการเรียน : สามารถเลือกวันเวลาเรียนเองได้ เน้นการเรียน เป็นกลุ่มเล็ก เพื่อให้เชฟมีโอกาสติวเข้มแบบตัวต่อตัว รวมถึงสอดแทรกเทคนิค และคำแนะนำที่จะเป็นประโยชน์ต่อการประกอบอาชีพ
สถานที่ติดต่อ : FB Fanpage : Bangkokkservicecookingschool
เบอร์โทรศัพท์ : 09 6882 6719 หรือ 0 2938 7531
3. M.S.C Thai Culinary School เป็นโรงเรียนของเชฟชุมพล เชฟกระทะเหล็กชื่อดัง โดยจะสอนทำอาหาร และขนมไทย รวมทั้งการแกะสลักพวกผักและผลไม้ โดยมุ่งเน้นพัฒนาบุคลากรให้เป็นเชฟ ที่มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล เพื่อป้อนเข้าสู่ธุรกิจบริการเกี่ยวกับอาหารทั้งภายในร้านอาหาร ภัตตาคาร โรงแรมทั้งใน และต่างประเทศ
ขั้นตอนการเรียน : มีคอร์สให้เลือกเรียนทั้งระยะสั้น และระยะยาว รวมทั้งมีหลักสูตรเฉพาะกลุ่ม อาทิ หลักสูตรสำหรับจูเนียร์เชฟ หลักสูตรสำหรับครอบครัว หลักสูตรสำหรับขนมไทย หลักสูตรแกะสลัก เป็นต้น
สถานที่ติดต่อ : www.msccookingschool.com
เบอร์โทรศัพท์ : 0 2185 1414
4. Baan Laksakarn Cooking School เป็นโรงเรียนสอนทำอาหาร บ้านอาจารย์ลักษณ์ ที่มีประสบการณ์ด้านอาหารกว่า 15 ปี โดยมีเคล็ดลับการทำอาหารไทย และต่างชาติมากมายทั้งอาหารคาว หวาน และเบเกอรี่ไว้รองรับผู้เรียนตามความต้องการ
ขั้นตอนการเรียน : คอร์สระยะสั้นแบบรายเมนูอาหาร อาทิ ซาลาเปาหน้าแตก ราดหน้ายอดผักหมูหมัก ผัดซีอี๊ว ขนมจีบ เค้กมะพร้าวอ่อน และคอร์สเรียนทำน้ำแกง 6 เมนูสำหรับเปิดร้าน อาหาร และอื่น ๆ อีกมากมาย
สถานที่ติดต่อ : www.lakcookingschool.com
เบอร์โทรศัพท์ : 08 9483 5064
5. Wandee Culinary Arts School เป็นโรงเรียนสอนทำอาหารที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก โดยมีการสอนทำอาหารไทยแบบเป็น A la Carte และสอนการทำอาหารแบบเป็นคอร์ส
ขั้นตอนการเรียน : คอร์สระยะสั้น และระยะยาว รวมทั้งคอร์สที่สอนสำหรับนำไปเปิดร้านอาหาร หรือประกอบอาชีพเป็นเชฟอาหารไทยทั้งใน และต่างประเทศ
ใบประกาศนียบัตร : มีใบประกาศนียบัตร รับรองโดยกระทรวงศึกษาธิการ
สถานที่ติดต่อ : www.wandeethaicooking.com
เบอร์โทรศัพท์ : 0 2279 2204, 08 1442 8956
วิธีการเลือกคอร์สเรียนทำอาหาร
1. เลือกเรียนทำอาหารจากคอร์สเรียนที่สนใจ
2. คำนึงถึงจุดประสงค์หลัก ๆ ในการเรียน และมีเมนูไหนที่อยากเรียนเป็นพิเศษ หรือไม่
3. ควรศึกษา และเข้าใจคอร์สเรียนทำอาหาร และขนมไทยมาก่อน เพราะการเรียนแบ่งไว้หลากหลาย อาทิ อาหารไทยขั้นพื้นฐาน, อาหารประจำภาค, อาหารไทยโบราณ และอาหารไทยตำรับชาววัง หากมีเวลาระยะสั้นอาจเลือกเรียนเจาะจงเฉพาะเมนู
4. มีโอกาสเรียนรู้วัฒนธรรมไทยผ่านอาหาร และขนมไทย
5. ประเมิน และเปรียบเทียบราคาค่าคอร์สเรียนก่อนตัดสินใจ
6. ดูรีวิว และประเมินสถาบัน/โรงเรียนสอนทำอาหาร-ขนมไทย ผ่านระบบออนไลน์ (เว็บไซต์, FB) เพื่อได้ข้อมูลตรงจากผู้เรียนก่อนหน้า
7. พิจารณาถึงคุณสมบัติพิเศษอื่น เช่น ใบประกาศนียบัตร (กรณีต้องการใช้เป็นหลักฐานประกอบอาชีพ)
ที่มา: ToprankThailand
Tel: +66 2-018-1366