"ภูมิธรรม" ให้กำลังใจและส่งประชาชนผู้อพยพเดินทางกลับภูมิลำเนาพื้นที่ จ.สุรินทร์ ย้ำ "ทุกข์ของพี่น้องประชาชนคือทุกข์อันดับหนึ่งที่รัฐบาลต้องดูแล" พร้อมเตรียมบรรเทาค่าน้ำ ค่าไฟ ประชาชนพื้นที่ประสบภัย
.
วันนี้ (9 ส.ค. 68) เวลา 09.30 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง ร.ต.ท.ภพชนก ชลานุเคราะห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นางสุดฤทัย เลิศเกษม อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ นายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และคณะ ให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนผู้อพยพบริเวณอาคารวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุรินทร์ อ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์
.
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนและคณะมาวันนี้ด้วยความห่วงใยถึงความยากลำบากของทุกท่านซึ่งไม่ได้มาจากความผิดของเรา แต่มาจากภัยนอกประเทศจนทำให้เราได้รับความเดือดร้อน ในขั้นต้นพวกเราทุกคนที่ทำการดูแลพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลังพยายามดูแลพี่น้องประชาชนทุกส่วนอย่างเต็มที่ โดยมีส่วนแนวหน้า คือ ทหารกล้าของเราก็ได้ทำหน้าที่ในการปกป้องดินแดนอธิปไตยของประเทศ และพยายามที่จะพิทักษ์รักษาช่วยเหลือดูแล ครอบครัวบ้านเรือนทุกอย่างของพี่น้องประชาชนเป็นอย่างดี "เรามีความเห็นอกเห็นใจและเห็นว่าทุกข์ของพี่น้องประชาชนคือทุกข์อันดับหนึ่งที่เราต้องดูแลรวมทั้งทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนด้วย"
.
"ตอนนี้พี่น้องประชาชนทุกคนคิดถึงบ้านเป็นอย่างมาก และเราก็ได้จัดชรบ. อส. ดูแลบ้านเรือนพี่น้องอย่างดี ซึ่งรัฐบาลได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์ต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือ โดยในเบื้องต้นเราได้เพิ่มเงินในอำนาจผู้ว่าฯ 7 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา จาก 20 ล้านเป็น 100 ล้านบาท และได้รับความสนับสนุนจากทุกส่วนราชการและภาคีเครือข่าย ทั้งวิทยาลัย มหาวิทยาลัย วัด บ้าน สถานศึกษา และสถานที่สาธารณะทั้งหมด ได้ร่วมทำอย่างเต็มที่ และตอนนี้ ทุกคนอยากกลับบ้านเต็มที่แล้ว ตามแผนขณะนี้ อปท.ทั้งหมดส่งเจ้าหน้าที่ลงไปสำรวจความเสียหายของที่พักอาศัยแล้ว ถ้าเสียหายรุนแรงรัฐบาลก็จะหาที่พักให้ก่อนและรีบจัดการซ่อมแซม ด้วยการระดมสรรพกำลังทั้งทหารช่าง ปภ. และอาชีวะ อาสาสมัคร คอยช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน" นายภูมิธรรม กล่าว
นายภูมิธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้กรมบัญชีกลางได้อนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ได้แก่ 1. เห็นชอบหลักเกณฑ์ให้เงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากกรณีสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ในกรณีเสียชีวิตและทุพพลภาพ : เจ้าหน้าที่รัฐ ทหาร ตำรวจ รายละ 10 ล้านบาท ประชาชนที่เสียชีวิตรายละ 8 ล้านบาท จากเดิม 1 ล้านบาท กรณีบาดเจ็บมาก : เจ้าหน้าที่รัฐ ทหาร ตำรวจ รายละ 5 แสนบาท ประชาชน 4 แสนบาท 2. ขยายวงเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในกรณีฉุกเฉินและอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี และตราด เพิ่มเติมเป็นจังหวัดละ 100 ล้านบาท จาก 20 ล้านบาท 3. อนุมัติปฏิบัตินอกเหนือหลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ กรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2563 โดยเป็นค่าใช้จ่ายในการอพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัย ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการศูนย์พักพิงชั่วคราว ปรับปรุงสถานที่ เครื่องอุปโภคบริโภค และเป็นค่าตอบแทนให้กับผู้ปฏิบัติงานทุกประเภทที่ได้รับมอบหมายให้ออกปฏิบัติงานช่วยเหลือผู้ประสบภัย
.
"ให้กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานต่าง ๆ นำรถยานพาหนะพาท่านกลับภูมิลำเนาด้วยความปลอดภัย และดำเนินการตามระเบียบ ข้อบังคับ กฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายจากงบประมาณองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และงบประมาณในอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย มาดำเนินการแก้ไขเยียวยาช่วยเหลือต่อไป พร้อมกำชับให้ผู้ว่า นายอำเภอ ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือประชาชนตามอำนาจหน้าที่โดยทันที และให้ความสำคัญกับความปลอดภัยช่วยเหลือพี่น้องประชาชนสูงสุดเป็นอันดับแรก และทางกระทรวงมหาดไทยได้ให้แนวทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและการประปาส่วนภูมิภาค พิจารณาบรรเทาผลกระทบค่าใช้จ่ายค่าสาธารณูปโภคของประชาชนพื้นที่ที่ประสบภัยด้วย ซึ่งทั้งหมดคือความห่วงใยที่รัฐบาล กระทรวงมหาดไทย และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกส่วนให้ความสำคัญและเอาใจใส่ประชาชนเป็นอย่างดี" นายภูมิธรรม กล่าว
.
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ /2568
วันที่ 9 ส.ค. 2568