เปิดวิธีปฏิบัติรับโอนเงินต่างประเทศซื้อสินทรัพย์ในไทย

     วิธีการโอนเงินตราจากต่างประเทศของชาวต่างชาติ เพื่อซื้อสินทรัพย์ในประเทศไทย มีข้อกำหนด หลักเกณฑ์ ข้อกฎหมายที่ระบุถึงสิ่งที่ทำได้และทำไม่ได้อย่างชัดเจน ซึ่งการทำธุรกรรมต่าง ๆ สามารถดำเนินการผ่านช่องทางของสถาบันการเงิน หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย

     ในการรับโอนเงินจากต่างประเทศมายังประเทศไทย ตามข้อกำหนดของธนาคารแห่งประเทศไทยนั้น ต้องมีการแจ้งวัตถุประสงค์เมื่อทำการโอนมา เนื่องจากเป็นมาตรการของทางการเพื่อป้องกันการฟอกเงินและการทุจริตอื่น ๆ โดยข้อบังคับกำหนดให้ธนาคารทุกแห่งในประเทศไทยจะต้องร้องขอให้ผู้โอนแจ้งวัตถุประสงค์ของการโอนเงินที่ชัดเจนก่อนที่จะนำเงินเข้าบัญชีของผู้รับในประเทศไทย โดยวัตถุประสงค์ของการโอนเงินอาจรวมถึงชำระค่าสินค้า ซื้อคอนโดมิเนียม ลงทุนในธุรกิจ หรือเป็นค่าครองชีพ

     ดังนั้นชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในประเทศไทย ที่ต้องการซื้อคอนโดมิเนียมต้องทำการโอนเงินเพื่อชำระค่าคอนโดมิเนียมจากต่างประเทศ และเงินนั้นต้องโอนเข้ามายังประเทศไทยในรูปของเงินตราต่างประเทศด้วย และต้องกรอกแบบฟอร์ม เอกสารการโอน หรือเรียกว่า T/T Form จากธนาคารต้นทาง โดยจะต้องระบุวัตถุประสงค์การโอนเป็นภาษาอังกฤษ ดังนี้ “For Purchase Condominium” “Name of Condominium” Unit number XXX under (buyer’s full name)

     นอกจากนี้ต้องขอรับใบรับรอง “แบบการทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศ” ทุกครั้งที่มีการดำเนินธุรกรรมทางการเงินจากธนาคารที่เป็นผู้ดำเนินการ เพราะผู้ซื้อจำเป็นต้องสำแดงใบรับรองทั้งหมดแก่กรมที่ดินเพื่อทำการจดทะเบียนคอนโดมิเนียมนั้นด้วย

     ทั้งนี้หากมีการโอนเงินเข้าประเทศเป็นจำนวนตั้งแต่ 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือเทียบเท่า ต้องยื่นแบบการทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศ และเอกสารประกอบตามวัตถุประสงค์ของการรับโอนเงิน โดยธนาคารจะออกใบรับรอง “แบบการทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศ” ส่วนการดำเนินธุรกรรมที่มีมูลค่าน้อยกว่าที่กำหนด ผู้ซื้อต้องขอใบรับรองจากทางธนาคารเอง

     อย่างไรก็ตาม หากผู้ซื้อชาวต่างประเทศมีสถานะเป็นผู้พำนักถาวรในไทย สามารถซื้อคอนโดมิเนียมโดยใช้เงินบาทไทยได้  ไม่จำเป็นต้องขอ “แบบการทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศ”