ฟิลิปปินส์ ให้สัตยาบัน เข้าร่วม RCEP เป็นประเทศสุดท้ายแล้ว เพิ่มโอกาสผู้ประกอบการไทย

    ประเทศฟิลิปปินส์ ได้ยื่นสัตยาบันสารรับ ปฏิบัติตามความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ต่อสำนักเลขาธิการอาเซียน ถือเป็นสมาชิกประเทศสุดท้ายที่ให้สัตยาบันความตกลง RCEP หลังจากสมาชิก 14 ประเทศ ได้แก่ บรูไนดารุสซาลาม, กัมพูชา, สปป.ลาว, สิงคโปร์, ไทย, เวียดนาม, ออสเตรเลีย, จีน, ญี่ปุ่น, นิวซีแลนด์, เมียนมา, เกาหลีใต้ และมาเลเซีย ให้สัตยาบันความตกลงไปก่อนหน้านี้

     ความตกลง RCEP ได้มีผลบังคับใช้กับฟิลิปปินส์อย่างสมบูรณ์ ในวันที่ 2 มิถุนายน 2556 และถือว่าสมาชิกผู้ก่อตั้ง RCEP ทั้ง 15 ประเทศ ให้สัตยาบันความตกลงครบแล้ว

     การให้สัตยาบันความตกลง RCEP ครั้งนี้ จะส่งผลให้ฟิลิปปินส์ ยกเลิกการเก็บภาษีศุลกากร ในกลุ่มสินค้าสินค้าประมง, พลาสติก, แก้ว และชิ้นส่วนยานยนต์ ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่ฟิลิปปินส์ยังไม่ได้เปิดตลาดภายใต้  FTA อาเซียน - จีน อาเซียน - ญี่ปุ่น อาเซียน - เกาหลีใต้ และอาเซียน  -ออสเตรเลีย - นิวซีแลนด์ จึงถือเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยที่จะสามารถเลือกใช้วัตถุดิบจากฟิลิปปินส์ในการผลิตสินค้า เพื่อส่งออกไปยังสมาชิก RCEP อื่นที่มิใช่อาเซียน 

     และยังสามารถนำวัตถุดิบจากญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, จีน, ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ มาใช้ในการผลิตสินค้าเพื่อส่งออกไปฟิลิปปินส์ ซึ่งจะได้รับการลด หรือยกเว้นการเก็บภาษีศุลกากรภายใต้ RCEP จึงถือเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทย ในการขยายเครือข่ายการผลิตและการกระจายสินค้าในภูมิภาค RCEP 

     สำหรับฟิลิปปินส์ เป็นคู่ค้าอันดับที่ 5 ของไทยในตลาดอาเซียน โดยปี 2565 การค้าระหว่างสองประเทศ มีมูลค่า 11,217 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกสินค้าไปฟิลิปปินส์ มูลค่า 7,383 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนำเข้าสินค้าจากฟิลิปปินส์ มูลค่า 3,834 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 

     โดยสินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ รถยนต์, อุปกรณ์และส่วนประกอบ, แผงวงจรไฟฟ้า และเม็ดพลาสติก ส่วนสินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ เครื่องคอมพิวเตอร์, อุปกรณ์และส่วนประกอบ, แผงวงจรไฟฟ้า, สินแร่โลหะอื่น ๆ, เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ และส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์

     ขณะที่การค้าของไทยกับสมาชิก RCEP มีมูลค่า 327,286.99 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 55.45% ของการค้ารวมของไทยกับทั่วโลก  โดยประเทศไทยใช้สิทธิ์ส่งออกภายใต้ RCEP มูลค่า 994.77 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 

     สินค้าที่ใช้สิทธิ์ส่งออกสูงสุด 5 อันดับ ภายใต้ RCEP ได้แก่ น้ำมันหล่อลื่น, ปลาทูน่ากระป๋อง, มันสำปะหลังเส้น, ทุเรียนสด และเลนส์สำหรับกล้องถ่าย เครื่องฉาย และใช้สิทธิ์นำเข้าภายใต้ RCEP มูลค่า 479.06 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าที่ใช้สิทธิ์นำเข้าสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ ไม้อัดพลายวูด, ด้ายไยยาวสังเคราะห์, องุ่นสดหรือแห้ง, โพลิอะไมด์ในลักษณะขั้นปฐม และโซเดียมไฮดอรกไซด์

แหล่งที่มา : กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์
เลขที่ 563 ถ.นนทบุรี ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
เบอร์ติดต่อ : 0 2507 7572 

ข้อมูลเพิ่มเติม


ความคิดเห็น

สงวนลิขสิทธิ์ 2022 โดย กรมประชาสัมพันธ์
สถิติการเข้าชม : 69,246,120