กระแส “ผ้าซิ่นฟีเวอร์” ลิซ่า Blackpink งามอย่างไทย

     กลายเป็นกระแส “ผ้าซิ่นฟีเวอร์” ที่ดังไกลทั่วโลกหลังนักร้องสาวไทย “ลิซ่า BLACKPINK” หรือ ลลิษา มโนบาล ได้สวมเสื้อผ้าฝ้าย และนุ่งผ้าซิ่นฝ้ายมัดหมี่ย้อมคราม ไปเที่ยวชมโบราณสถานเมืองเก่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กับกลุ่มเพื่อน แล้วโพสต์ Instagram ส่วนตัว 

     จนเป็นภาพไวรัลในโลกออนไลน์ ทำให้หลายคนตามหาผ้าซิ่นมาสวมใส่เที่ยววัดที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยากันเป็นจำนวนมาก ซึ่งการนุ่งผ้าซิ่นของลิซ่านี้เอง นับเป็น Soft Power ด้านวัฒนธรรมความเป็นไทยผ่านเครื่องแต่งกาย

     สำหรับผ้าซิ่นที่ “ลิซ่า” สวมใส่ เป็นผ้าฝ้ายมัดหมี่หมักโคลนย้อมครามหมักโคลน ลายขอนาค ลายโบราณเอกลักษณ์ของชาวอีสาน และเป็นงานหัตถกรรมพื้นบ้านขึ้นชื่อของจังหวัดอุดรธานี ซึ่งการนำผ้ามาหมักโคลนเกิดจากวิถีของชาวบ้านที่นุ่งผ้าออกไปทำงาน ทำไร่ ทำนา เปื้อนดินโคลน เมื่อกลับมาบ้านนำผ้าไปซักจึงพบว่าผ้ามีความนุ่มและเงาอย่างน่าประหลาด จนเป็นที่มาของผ้าฝ้ายหมักโคลนในปัจจุบัน 

     ส่วนการย้อมครามนั้นเป็นการย้อมสีจากธรรมชาติ โดยสีที่ได้มาจากต้นคราม ที่ผ่านกระบวนการในการนำมาหมักคราม จนเกิดเป็นสีน้ำเงินที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์

     ขณะที่การทอผ้ามัดหมี่เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่มีสืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ มีกรรมวิธีการทอ เริ่มจากนำเส้นด้าย หรือไหมมาย้อมสีแล้วมัดบริเวณที่ต้องการเก็บไว้ โดยย้อมเรียงลำดับจากสีอ่อนไปหาสีเข้มจนครบ ตามลวดลายที่กำหนด จากนั้นจึงนำด้ายกรอเข้าหลอด แล้วนำไปทอจะเกิดลวดลายบนผืนผ้า ซึ่งต้องอาศัยความชำนาญในการมัดย้อมและทอเป็นอย่างมาก